Naval Ravikant เป็นนักลงทุนชาวอเมริกันที่ประสบความสำเร็จจากการลงทุนในบริษัทอย่าง Uber, FourSquare, และ Twitter (X) และเป็น CEO ของ AngelList บริษัทที่เชื่อม startup กับ angel investor
หนังสือ The Almanack of Naval Ravikant โดย Eric Jorgenson รวบรวมข้อคิดเกี่ยวกับความมั่งคั่ง (wealth) และความสุข (happiness) ผ่านการสัมภาษณ์และ tweet ของ Naval
ในบทความนี้ เราจะมาสรุปเนื้อหา Building Wealth ซึ่งเป็นบทแรกจาก 5 บทในหนังสือ และพูดถึงเรื่องการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
บทความนี้แบ่งออกเป็น 5 ส่วน ได้แก่:
- Intro to wealth
- How to build wealth right
- What to build wealth with
- Why seek wealth?
- Additional tips on life of wealth
ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย

- 🏦 1. Intro to Wealth
- 😎 2. How to Build Wealth Right
- 🏗️ 3. What to Build Wealth With
- 🕊️ 4. Why Seek Wealth?
- 💡 5. Additional Tips on Life of Wealth
- 💰 Summary
- 🔥 Get The Almanack of Naval Ravikant
🏦 1. Intro to Wealth
Seek wealth, not money or status.
— Naval Ravikant
เราควรมองหา wealth ไม่ใช่ money หรือ status
- Wealth = asset ที่สร้างรายได้ให้เราในขณะที่กำลังหลับ
- Money = สื่อที่เราใช้เคลื่อนย้าย wealth
- Status = สถานะทางสังคมที่บอกว่า เราอยู่สูงหรือต่ำขนาดไหน
Why not money?
Money สร้างความสุขให้เราไม่ได้ สิ่งเดียวที่ money แก้ได้ คือ ช่วยจัดการอุปสรรคที่ขัดขวางเส้นทางสู่ความสุขของเรา
Money ทำให้เรามีกินมีใช้และสามารถใช้จ่ายในสิ่งที่เราต้องการได้ แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ใช่ความสุขที่เราตามหา
Why not status?
การต่อสู้เพื่อ status (อย่างการเล่นการเมือง) เป็น zero-sum game นั่นคือ ต้องมีฝ่ายแพ้และฝ่ายชนะ (-1, +1) ทำให้ในภาพรวม ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
ความสัมพันธ์ที่ดีควรเป็น win-win ที่ทุกฝ่ายได้ผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว
Why wealth?
Wealth สามารถสร้างรายได้ให้เราได้ในระยะยาว เพราะ wealth สามารถทำรายได้ให้กับเราแม้ในขณะที่เรากำลังหลับ
เราควรมองหา wealth เช่น โรงงาน ธุรกิจ หนังสือ โค้ด มากกว่า money และ status
😎 2. How to Build Wealth Right
แนวทางการสร้าง wealth อย่างยั่งยืนมีอยู่ 3 ข้อ ได้แก่:
- Productise yourself
- Earn with mind, not time
- Luck
.
🎁 2.1 Productise Yourself
Productize Yourself
— Naval Ravikant
Productise yourself หมายถึง การพัฒนาตัวให้เป็น product ที่เป็นที่ต้องการของสังคม
เราจะ productise ตัวเองได้สำเร็จเมื่อเราสามารถสร้างสิ่งที่:
- มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว (unique/authentic)
- เป็นสิ่งที่สังคมต้องการ แต่ไม่รู้จะหามาได้ยังไง (เพราะถ้าหาได้ สังคมจะไม่ต้องการเรา)
เมื่อเราสามารถทำ 2 อย่างนี้ได้ สังคมก็จะตอบแทนเรา (ด้วยเงิน)
.
🧠 2.2 Earn With Mind, Not Time
Earn with your mind, not your time.
— Naval Ravikant
เราควรหารายได้ด้วยความคิด (mind) ไม่ใช่เวลา (time)
เวลาเป็น resource ที่มีอยู่อย่างจำกัดและไม่สามารถหาเพิ่มได้ ถ้าเราผูกติดรายได้กับเวลา เราจะไม่มีทางมีอิสระทางการเงิน
การผูกรายได้กับเวลา หมายถึง เราจะต้องใช้เวลาแลกกับรายได้ และเราจะไม่มีรายได้ถ้าเราไม่มีเวลา
เช่น เราจะได้เงินเดือนก็ต่อเมื่อเราทำงานครบ 1 เดือน และถ้าเดือนนั้นเราขาดงาน รายได้ของเราก็จะหายไป 1 เดือน
Time -> Money
Time -> Money
หนทางในการสร้างความมั่นคง คือ เราจะต้องแยกรายได้ออกจากเวลา และหารายได้จากความคิด ไม่ใช่เวลา
Time Mind -> Money
ในขณะที่เวลามีอยู่อย่างจำกัด ความคิดของเราไม่มีที่สิ้นสุด และเราสามารถพัฒนาความคิดของเราให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ได้ ซึ่งทำให้เราสามารถหารายได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ได้
เมื่อเราหารายได้ด้วยความคิด ไม่ใช่เวลา รายได้ของเราจะไม่ถูกจำกัดอีกต่อไป

.
🎲 2.3 Luck
You put yourself in a position to capitalize on luck or to attract luck when nobody else created the opportunity for themselves.
— Naval Ravikant
Luck เป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ และถ้าเราอยากสร้าง wealth อย่างมั่นคง เราควรตัด luck ออกจากสมการของเรา
Naval มองว่า luck มีอยู่ 4 ประเภท:
- Blind luck: luck ที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ เช่น ถูกหวย
- Luck from persistence: luck ที่เกิดจากความเพียร าจะพบ luck ประเภทนี้ได้เมื่อเราทำงานหนักหรือใส่ความพยายามไปกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน
- Luck from spotting: luck ที่เกิดจากการที่เราพัฒนาทักษะในการสังเกตเห็นโอกาสต่าง ๆ ในชีวิต ทำให้เราพบเจอ luck ได้มากกว่าคนอื่น
- Luck that finds you: luck ที่เข้ามาหาเราเองเพราะเราพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ต้องการของสังคม (productise yourself)
Luck ประเภทสุดท้ายเป็น luck ที่คาดเดาได้มากที่สุด เพราะเป็น luck ที่เกิดจากตัวเองเรา
ถ้าเราอยากสร้าง wealth เราควรตัด luck ออกจากสมการโดยการพัฒนาตัวเองจน luck วิ่งเข้ามาหาเราเอง
🏗️ 3. What to Build Wealth With
สิ่งที่เราควรมีเพื่อสร้าง wealth อย่างยั่งยืนมีอยู่ 5 อย่าง ได้แก่:
- Specific knowledge
- Leverage
- Accountability
- Equity
- Compound interest
.
⚡ 3.1 Specific Knowledge
No one can compete with you on being you.
— Naval Ravikant
Specific knowledge คือ ความรู้/ความสามารถเฉพาะตัว
Specific knowledge เป็นสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น และทำให้เราสามารถสร้างสิ่งที่สังคมต้องการแต่ยังไม่รู้ว่าจะหามาได้ยังไง เพราะสิ่งนั้นมีแต่เราที่รู้/ทำได้
Specific knowledge เกิดมาจาก 3 ส่วน ได้แก่:
- Innate trait: ลักษณะที่ติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด
- Passion: ความชอบ/ความหลงใหล
- Experience: ประสบการณ์ชีวิต
What’s your specific knowledge?
แต่ละคนมี specific knowledge ที่ไม่เหมือนใคร เราสามารถสังเกต specific knowledge ของเราได้โดยมองหาสิ่งที่:
- เราทำสำเร็จได้ง่าย ๆ โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายาม
- ดูเหมือนไม่ใช่ทักษะ แต่คนอื่นมองว่าเป็นความสามารถเฉพาะตัว
- เรามองว่าเป็นงานอดิเรก เป็นการพักผ่อน แต่คนอื่นมองว่าเป็นงาน
ยกตัวอย่าง เช่น:
- ทักษะการขาย
- ชอบเล่นเกม
- ชอบอ่านหนังสือนิยายวิทยาศาสตร์
- ทักษะนักสืบชีวิตที่ทำให้เรารู้เรื่องราวของคนรอบข้างได้หมด แม้จะไม่เคยมีใครบอกอะไรกับเราเลย
How to develop your specific knowledge?
เราสามารถพัฒนา specific knowledge ได้โดยทำตาม passion มากกว่าการทำตาม trend
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราชอบเล่นดนตรี เราควรฝึกเล่นดนตรี แทนที่จะเรียน machine learning ในยุคของ AI (เว้นว่า เราจะชอบ machine learning จริง ๆ)
การทำตาม passion จะทำให้เราพัฒนา specific knowledge ได้ยั่งยืนกว่า เพราะในขณะที่คนอื่นล้มเลิกความพยายามไปตาม trend เราจะยังคงทำในสิ่งที่เรารักอยู่ ทำให้เราสั่งสมประสบการณ์การและความรู้ได้มากกว่าคนอื่น ๆ
.
🧰 3.2 Leverage
Give me a lever long enough and a place to stand, and I will move the earth.
— Archimedes
Leverage คือ สิ่งที่จะขยาย impact ของเรา
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสัดส่วนระหว่างความพยายามและผลลัพธ์อยู่ที่ 1:1, leverage สามารถทำให้สัดส่วนนี้กลายเป็น 1:2, 1:5, 1:10, 1:1,000, 1:10,000 ได้
Leverage มีอยู่ 3 ประเภท ได้แก่:
- Labour
- Capital
- Product with no marginal cost of replication
Labour หรือแรงงานเป็น leverage ที่เก่าแก่ที่สุด แต่ใช้งานยาก เพราะเราต้องมี leadership skill ที่ดี
Capital หรือเงินทุน เป็น leverage ที่ scale ได้ดี แต่จัดการได้ยาก แต่ใครที่ทำได้จะได้แต้มต่อจากคนอื่นมาก
Leverage ประเภทสุดท้าย คือ product with no marginal cost of replication
ในขณะที่ labour และ capital เป็น permission-based leverage เพราะเราจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากคนอื่น product with no marginal cost of replication เป็น permissionless leverage เพราะเราสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องขอความยิมยอมจากใคร
Product with no marginal cost of replication คือ สิ่งที่เราสามารถสร้างเพิ่มได้โดยใช้ต้นทุนแทบเป็น 0 เช่น:
- หนังสือ
- เพลง
- โค้ด
- YouTube video
ในยุคที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทุกคนสามารถเข้าถึง product with no marginal cost of replication ทุกคนสามารถสร้าง video และ copy ไปโพสต์ตาม platform ต่าง ๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายสักบาท และทำให้ตัวเองให้เป็นที่รู้จักทั่วโลกได้ในชั่วข้ามคืนได้
ถ้าอยากจะสร้างความมั่งคั่ง เราควรจะมี leverage ซึ่ง leverage ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด คือ product with no marginal cost of replication
.
🫡 3.3 Accountability
Clear accountability is important. Without accountability, you don’t have incentives.
— Naval Ravikant
Accountability หมายถึง ความรับผิดชอบในงานที่ทำ
Accountability เป็นสิ่งที่มีความเสี่ยง เพราะถ้าสิ่งที่เราทำสำเร็จ เราก็สามารถรับความดีความชอบได้ ในทางกลับกัน ถ้าสิ่งที่เราทำล้มเหลว เราก็ต้องรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
แม้จะมีความเสี่ยง แต่เราควรมี accountability ถ้าเราอยากสร้าง wealth เพราะเมื่อเรามี accountability เราก็จะมี credibility ซึ่งทำให้เราสามารถหา leverage อย่าง labour และ capital ได้ขึ้น
นอกจากนี้ Naval มองว่า accountability ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะคนส่วนใหญ่จะให้อภัยเราถ้าเราทำผิดพลาด แต่แสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจพร้อมความพยายามที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น
ถ้าเราต้องการสร้าง wealth เราควรมี accountability ในสิ่งที่เราทำ
.
🏪 3.4 Equity
You must own equity—a piece of a business—to gain your financial freedom.
— Naval Ravikant
นอกจาก specific knowledge, leverage, และ accountability แล้ว ถ้าเราต้องการจะสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน เราจะควรมี equity ด้วย
Equity เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของ (ownership) ใน asset ที่สามารถสร้างรายได้ได้ เช่น:
- product ต่าง ๆ
- สินทรัพย์ทางปัญญา
- ธุรกิจ
ถ้าเราไม่มี ownership, ความพยายามและผลลัพธ์ที่เราได้จะอยู่ในสัดส่วนที่ 1:1 แต่ถ้ามี equity แล้ว เราจะสามารถเปลี่ยนสัดส่วนให้มากขึ้นได้
ยกตัวอย่างเช่น คุณหมอที่ทำงานโรงพยาบาล แม้จะได้รับค่าตอบแทนสูง แต่รายได้ของคุณหมอขึ้นอยู่กับเวลาที่ใช้ไปกับการทำงาน และถ้าคุณหมอหยุดงาน หมอก็จะไม่มีรายได้เข้ามา
ในทางกลับกัน ถ้าคุณหมอเปิดคลิกนิกเป็นของตัวเอง คุณหมอสามารถมีรายได้เท่าเดิมหรือมากขึ้นในเวลาที่น้อยลง เพราะคลินิกที่มีทั้งบุคลากร เงินทุน และ software (leverage ทั้ง 3 ประเภท) จะสร้างรายได้ให้กับคุณหมอ แม้ในขณะที่คุณหมอกำลังหลับ
.
🪙 3.5 Compound Interest
The combination of those over a long period of time with the magic of compound interest will make you wealthy.
— Naval Ravikant
สุดท้าย สิ่งที่เราต้องการเพื่อสร้างความมั่งคั่ง คือ เวลา
ความสำเร็จไม่ได้ถูกสร้างชั่วข้ามคืน แม้แต่ Naval เองที่ประสบความสำเร็จทั้งทางทรัพย์สินเงินทองและสังคม ก็ใช้เวลาหลายสิบปีในการสร้างขึ้นมา
เวลาอยู่ข้างเรา ถ้าเราโฟกัสได้ถูกจุด
99% vs 1%
99% ของสิ่งที่เราทำเป็นความพยายามที่เสียเปล่า
ยกตัวอย่างเช่น เราใช้เวลาเกือบครึ่งชีวิตไปกับการเรียน การอ่านหนังสือ การสอบที่ทำให้เราได้ความรู้ที่สุดท้ายเราไม่ได้นำมาใช้จริง
มีเพียง 1% ของความพยายามทั้งหมดของเราที่จะให้ผลลัพธ์ที่เราต้องการ
เราจะต้องใช้ความพยายาม 99% เพื่อหา 1% นี้ให้เจอ และเมื่อเจอแล้วให้เราทุ่มสุดตัวไปกับ 1% ที่ว่า เพราะ 1% นี้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ในชีวิตของเรา
เมื่อเราลงทุนไปกับสิ่งที่ใช่แล้ว เราเพียงแต่ต้องอดทนและปล่อยให้เวลาทำงาน
Compound interest in life
Compound interest เป็นแนวคิดทางการเงินที่ไม่ได้ใช้ได้กับการเงิน แต่ใช้กับด้านอื่น ๆ ของชีวิตอีกด้วย
Compound interest คือ การที่เราได้ดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะในแต่ละปี เงินต้นของเราจะเท่ากับเงินต้น + ดอกเบี้ย ทำให้ดอกเบี้ยในแต่ละปีจะคิดต่อยอดจากดอกเบี้ยปีก่อน ๆ ด้วย
Compound interest สามารถปรับใช้กับด้านต่าง ๆ ของชีวิตได้ เช่น ความสัมพันธ์
การที่เราจะไว้ใจสักคนไม่ได้เกิดจากความประทับใจครั้งแรก แต่เกิดการสั่งสมของการแลกเปลี่ยนความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ซึ่งเรายิ่งใช้เวลากับใครได้นาน เราก็จะยิ่งไว้ใจคนคนนั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ
การสร้าง wealth ก็เช่นกัน เมื่อเราลงทุนได้ถูกจุดแล้ว เราก็พร้อมให้ wealth สั่งสมตัวเอง และเมื่อถึงจุดหนึ่ง เราก็จะมี wealth อย่างที่เราต้องการ
🕊️ 4. Why Seek Wealth?
When you’re finally wealthy, you’ll realize it wasn’t what you were seeking in the first place.
— Naval Ravikant
ถึงตอนนี้ เราได้เห็นแนวคิดและวิธีการสร้าง wealth แล้ว แต่เรายังไม่ได้ตอบคำถามที่ว่า ทำไมเราต้องการ wealth?
แต่ละคนอาจมีเป้าหมายในการมองหา wealth ไม่เหมือนกัน แต่ Naval เชื่อว่า เราตามหา wealth เพื่อ freedom
Freedom ในมุมมองของ Naval คือ อิสระในทุก ๆ ด้าน เช่น:
- อิสระในการเลือก: สามารถเลือกทำในสิ่งที่ต้องการ และไม่ทำในสิ่งที่ไม่ต้องการได้
- อิสระในทางการเงิน: สามารถใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการได้
- อิสระทางอารมณ์: ไม่ต้องมีความรู้สึกที่ทำลายความสงบทางจิตใจ
Freedom เป็นเป้าหมายปลายทาง และ wealth เป็นเพียงทางที่จะนำเราไปสู่ freedom
ตราบใดที่ wealth ยังสร้าง freedom ให้เรา wealth คือทางออก
แต่เมื่อไรที่ wealth ขัดขวาง freedom ของเรา wealth คือปัญหา
💡 5. Additional Tips on Life of Wealth
3 คำแนะนำเพิ่มเติมจาก Naval เกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่ง:
- Value your time
- Avoid ruin
- Early success
.
⌚ 5.1 Value Your Time
Value your time at an hourly rate, and ruthlessly spend to save time at that rate.
— Naval Ravikant
เวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของเรา และเราควรจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด
เทคนิคหนึ่งในการจัดการเวลา คือ กำหนด hourly rate
Hourly rate คือ ราคาค่าตัวต่อชั่วโมงของเรา เราควรตั้ง hourly rate ให้สูงจนน่าตกใจเพื่อที่:
- เราจะมีแรงผลักที่จะมุ่งไปข้างหน้า
- เราจะรู้จักใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
ยกตัวอย่างเช่น เราตั้ง hourly rate ไว้ที่ 5,000 บาท และถ้าเรากำลังจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงไปกับการดู Netflix แสดงว่า เรากำลังจะเสียเงิน 5,000 บาทไปฟรี ๆ เพราะในเวลา 1 ชั่วโมง เราสามารถทำกิจกรรมอื่นที่อาจสร้างรายได้ 5,000 บาทได้
การตั้ง hourly rate จะช่วยให้เราคำนึงถึงเวลาในการตัดสินใจต่าง ๆ ของเรา และทำให้เราใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด
.
🚨 5.2 Avoid Ruin
The one thing you have to avoid is the risk of ruin.
— Naval Ravikant
เราควรหลีกเลี่ยง ruin หรือสิ่งที่จะทำลายชีวิตของเรา เช่น:
- Jail: ไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่มีอะไรที่คุ้มค่าพอจะให้เราเข้าไปนอนในคุก
- Catastrophic loss: หลีกเลี่ยงการสูญเสียแบบหมดตัว เช่น การเล่นพนัน
- Physical danger: อันตรายต่อร่างกายและสุขภาพ
.
🏆 5.3 Early Success
Some of the most successful people I’ve seen in Silicon Valley had breakouts very early in their career.
— Naval Ravikant
ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในชีวิต เราควรจะหาความสำเร็จตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะถ้านานไป เราจะเริ่มหาความสำเร็จได้ยากขึ้น
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิต Naval แนะนำให้ตัดสินใจ 3 อย่างนี้ให้ดี:
- Where: เราจะใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน สถานที่ที่เราอยู่จะส่งผลต่อแนวทางและเส้นทางชีวิตของเรา
- Who: เราจะใช้เวลาไปกับใคร หรือใครที่เราจะมีความสัมพันธ์ด้วย
- What: เราจะทำอะไร เช่น จะทำงานอะไร
เราควรคิดถึง 3 เรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนและใน timeframe ระยะยาว เช่น:
- Where: จะใช้ชีวิตในเมืองไหน 10 ปี?
- Who: จะคบกับใครไปทั้งชีวิต?
- What: จะทำงานเดิมกี่ปี 3 ปี? 5 ปี?
เราควรวางแผนทั้ง 3 สิ่งนี้ให้ดี เพราะการตัดสินใจนี้จะกำหนดเส้นทางชีวิตที่เหลือของเรา
💰 Summary
ในบทความนี้ เราสรุปแนวคิดในการสร้าง wealth ในหนังสือ The Almanack of Naval Ravikant
Intro to wealth: wealth คืออะไร?
- Seek wealth, not money or status: ตามมา wealth ไม่ใช่ money หรือ status. Wealth คือ asset ที่สร้างรายได้ให้เราในขณะที่เราหลับ ในขณะที่ money คือ สื่อในการเคลื่อนย้าย wealth และ status คือ สถานะทางสังคมของเรา
How to build wealth right: แนวทางในการสร้าง wealth อย่างยั่งยืน
- Productise yourself: สร้างสิ่งที่สังคมต้องการ แต่ยังไม่รู้ว่าจะหามาได้ยังไง
- Earn with mind, not time: สร้างรายได้ผ่านความคิด ไม่ใช่เวลา
- Luck: ตัด luck ออกจากสมการสร้าง wealth ด้วยการพัฒนาตัวเองจน luck เข้ามาหาเอง
What to build wealth with: สิ่งที่เราควรมีเพื่อสร้าง wealth อย่างยั่งยืน
- Specific knowledge: ความรู้/ความสามารถเฉพาะตัว
- Leverage: สิ่งที่จะขยาย impact ของสิ่งที่เราทำ
- Accountability: ความรับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ
- Equity: ownership ใน asset ที่ช่วยสร้างรายได้ในขณะที่เราหลับ
- Compound interest: เวลา
Why seek wealth?
- Freedom: เราตามหา wealth เพื่อ freedom ในชีวิต
Additional tips: ข้อคิดเพิ่มเติมในการสร้าง wealth
- Value your time: กำหนด hourly rate เพื่อรู้จักใช้เวลาอย่างคุ้มค่า
- Avoid ruin: หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะทำลายชีวิต เช่น jail, catastrophe loss, และ physical danger
- Early success: เริ่มตามหาความสำเร็จแต่เนิ่น ๆ และตัดสินใจในเรื่องที่อยู่ ความสัมพันธ์ และสิ่งที่เราจะทำให้ดี
🔥 Get The Almanack of Naval Ravikant
สำหรับคนที่สนใจเนื้อหาของหนังสือและอยากอ่านเพิ่มเติม สามารถซื้อหนังสือได้ตาม link ด้านล่าง:
Note: ใครที่สนใจอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษแบบ e-book หรือ PDF สามารถดาวน์โหลดฟรีได้ที่ navalmanack.com

Leave a comment