ในบทความนี้ ผมจะมาสรุป 3 ประเด็นจาก 2 sessions ในงาน WebPresso (รอบเดือนธันวาคม 2025) ได้แก่:
- Web Is the Way โดย คุณทอย กษิดิศ สตางค์มงคล (แอดทอย) กรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย และผู้เชี่ยวชาญด้าน Data เจ้าของเพจและเว็บไซต์การศึกษา DataRockie
- The System Behind Successful Lone Creators โดย คุณพลอย อนัญญา สหัสสะรังษี (พลอย – Anunya พา Learn)
โดยเนื้อหาทั้ง 3 ประเด็นได้แก่:
- How to survive: วิธีทำให้เว็บไซต์ของเรารอดในยุคของ AI
- Future trends: trends ของเว็บไซต์ในโลกอนาคต
- What we need for a successful business: สิ่งที่เราต้องการเพื่อทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย
🌐 How to Survive

.
AI content มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอินเทอร์เน็ต แต่การสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีการเว็บไซต์จะช่วยสร้างตัวตนบนอินเทอร์เน็ตที่จะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น
ถ้าเว็บไซต์เราจะอยู่รอด เราจะต้องทำเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 ส่วน คือ:
- Human: คนอ่าน content
- Machine: bot และ AI ที่เข้าถึงเว็บไซต์ของเรา
ซึ่งเราทำได้ 6 วิธี ดังนี้:
- Quality content
- Information gain
- Structure
- llms.txt
- JSON-LD
- Trust
.
1️⃣ Quality Content
เราจะต้องสร้าง content ที่มีคุณภาพ ซึ่งมีลักษณะ 4 อย่าง ได้แก่:
- Experience: เขียน/สร้างจากประสบการณ์ตรง
- Expert: เขียน/สร้างจากความเชี่ยวชาญ
- Authority: แสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนั้น ๆ
- Trustworthiness: มีความน่าเชื่อถือ (ไม่ใช่ click bait)
.
2️⃣ Information Gain
Content ของเราจะต้องให้ข้อมูลใหม่/เพิ่มเติมจากสิ่งที่มีอยู่
ยกตัวอย่างเช่น:
- สิ่งที่ไม่ควรเขียน: What is data science?
- สิ่งที่ควรเขียน: How I apply data science in my job as a data analyst at Samsung
เราไม่ควรเขียน “What is data science?” เพราะเป็น content ที่มีอยู่มากมายบนอินเทอร์เน็ตแล้ว และไม่ช่วยเพิ่มข้อมูลให้กับคนอ่าน
ในทางกลับกัน “How I apply data science in my job as a data analyst at Samsung” เป็น topic ที่อาจจะยังไม่เคยมีใครเขียนมาก่อน และทำให้คนอื่นได้ข้อมูลที่แปลกใหม่ไปจากเดิม ดังนั้น เราควรจะเขียนหัวข้อนี้มากกว่า “What is data science?”
.
3️⃣ Structure
เราควรออกแบบโครงสร้าง content (เช่น บทความ) ให้ดี:
- Atomic content: แบ่ง content เป็นส่วน ๆ เช่น แบ่งเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนตอบคำถาม 1 ข้อ
- เขียน content เช่น “10 ที่เที่ยวแนะนำในกรุงเทพฯ”, “5 คำแนะนำสำหรับคนหางานใหม่”, หรือ “7 นิสัยที่คนรุ่นใหม่ควรมี”
- เขียน content แบบเปรียบเทียบ เช่น “เปรียบเทียบกล้อง Samsung Galaxy S25 และ iPhone 17”
.
4️⃣ llms.txt
llms.txt เป็นไฟล์บนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะบอก AI ที่วิ่งเข้ามาหาเว็บไซต์ว่า เว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับอะไร มีโครงสร้างเว็บไซต์ยังไงบ้าง
เราควรปรับไฟล์นี้เพื่อช่วยให้ AI เข้าใจเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น และนำเนื้อหาของเว็บไซต์ไปสู่ target audience ของเรา
ตัวอย่าง llms.txt:

.
5️⃣ JSON-LD
JSON-LD (LD คือ linked data) เป็นไฟล์ที่ช่วยบอก AI ว่า เรามี asset อะไรบ้าง เช่น บอกว่า:
- YouTube ของเราชื่ออะไร
- Instagram ชื่ออะไร
- Facebook page ชื่ออะไร
JSON-LD ช่วยให้ AI เข้าใจ online profile ของเรามากขึ้น
ตัวอย่าง JSON-LD:

.
6️⃣ Trust
สุดท้าย สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ trust เพราะ human เป็นคนที่จะเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา และคนอื่นจะไม่เข้ามาดู content บนเว็บไซต์ของเราถ้าเราไม่สามารถสร้างความไว้ใจให้กับเขาได้
🔮 Future Trends
.
1️⃣ Cozy Web
เว็บไซต์จะเปลี่ยนจาก public space ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ มาเป็น community-based หรือเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมของคนที่มีความสนใจเหมือนกันมากขึ้น
ตัวอย่าง cozy web เช่น:
- Discord
- Snapchat
.
2️⃣ Headless CMS
เว็บไซต์จะแยกส่วนระหว่าง:
- ส่วนจัดเก็บข้อมูล (database)
- ส่วนการแสดงผล (UI หรือ head ของเว็บไซต์)
การแยก 2 ส่วนนี้ออกจากกัน จะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เหมาะกับ user ได้ง่ายมากขึ้น นั่นคือ แทนที่ user ทุกคนจะเห็น content บนเว็บไซต์ที่หน้าตาเหมือนกัน user จะเห็น content เดียวกันบนเว็บไซต์ที่แตกต่างกันไปแต่ละคน
.
3️⃣ Zero UI
Zero UI เป็นแนวคิดการออกแบบ user interface (UI) ให้ seamless สำหรับ user โดยแทนที่จะมีกล่องและปุ่ม user อาจสั่งการผ่านเสียงหรือพิมพ์ natural language ลงไปเพื่อใช้งานเว็บไซต์ได้
ด้วยความสามารถในการเขียน code ของ AI เราสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่แตกต่างและเหมาะสมกับ target audience และเข้าใกล้ zero UI ได้มากขึ้น
.
4️⃣ Query Fanout
การค้นหาจะเปลี่ยนจาก search engine อย่าง Google มาเป็น AI search ซึ่งใช้การค้นหาแบบ query fanout หรือการแยกหัวข้อจากคำค้นหาของ user มากขึ้นเรื่อย ๆ
เราสามารถดูตัวอย่าง query fanout ได้ใน ChatGPT โดยทำตามวิดีโอด้านล่าง:
หรือใช้เครื่องมืออย่าง Query Fanout Analysis Tool
เมื่อเรารู้ว่า AI จะแตกหัวข้อออกมาเป็นอะไรบ้าง เราสามารถสร้าง content ที่ตอบโจทย์หัวข้อเหล่านี้ เพื่อทำให้ content เรามีโอกาสติดอันดับของ AI search มากขึ้น
🚀 What We Need for a Successful Business

.
💫 What We Need Is Systems
จากประสบการณ์ของคุณพลอย เราไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนมาก หรือ business model ที่ใช่ เพื่อทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ:
- NocNoc → 300 คน → 5,000 ล้านบาท
- บริษัท crypto → 9 คน → กำไร 1,000,000 USD
- ขายเครื่องราง → 1 คน → 20,000,000 บาท
สิ่งที่เราต้องการ คือ system ที่ดี
With great systems and the right tools, we can all scale. — Anunya Pa Learn
.
🤖 Examples
ในปัจจุบัน เรามีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่ช่วยให้เราสร้างระบบการทำงานที่ดีได้
ยกตัวอย่างเช่น:
ตัวอย่างที่ 1. Matt Gray ที่ออกแบบ content โดย:
- แบ่ง 1 long content เป็น 3 โพสต์ย่อย เพื่อสามารถโพสต์บน platform ต่าง ๆ ได้
- มี template สำหรับสร้าง content และโพสต์บนที่ต่าง ๆ เพื่อให้ทุกโพสต์มี mood and tone เดียวกัน
- วางระบบ automated DM เพื่อตอบรับและเก็บข้อมูล lead ผ่านทาง social media โดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างที่ 2. Payper ที่เป็น AI ที่คุณพลอยพัฒนาขึ้นมา เพื่อแก้ pain point การจัดเก็บใบเสร็จสำหรับทำบัญชี ซึ่งทำงานใน 3 ขั้นตอน:
- เก็บข้อมูลใบเสร็จที่อัปโหลดลงใน LINE ไว้ใน Google Sheet
- สร้าง Google Drive folder เพื่อเก็บรูปใบเสร็จ
- ค้นหาและเก็บข้อมูลใบเสร็จที่อยู่ในอีเมล
- ออกใบแทนใบเสร็จในกรณีที่ใบเสร็จไม่มีหัวบิล
สำหรับคนที่สนใจทดลองใช้งาน Payper สามารถติดต่อได้ตามรูปด้านล่าง:

📄 References
EEAT:
Cozy web:
Headless CMS:
Zero UI:
- Zero UI: The invisible interface revolution
- The Rise of Zero UI and the Future of Invisible Interactions
- Zero UI: The Future Beyond Screens
- How to Design a Seamless UX with Zero UI in 2025
- Your Beginner’s Guide to Zero UI
- What is the Invisible UI and How It Will Make Your Users Happier
Query fanout:
