สรุป 3 ประเด็นหลัก จาก 2 sessions ในงาน WebPresso (รอบเดือนธันวาคม 2025): How to Survive, Future Trends, และ What We Need for a Successful Business

ในบทความนี้ ผมจะมาสรุป 3 ประเด็นจาก 2 sessions ในงาน WebPresso (รอบเดือนธันวาคม 2025) ได้แก่:

  1. Web Is the Way โดย คุณทอย กษิดิศ สตางค์มงคล (แอดทอย) กรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ไทย และผู้เชี่ยวชาญด้าน Data เจ้าของเพจและเว็บไซต์การศึกษา DataRockie
  2. The System Behind Successful Lone Creators โดย คุณพลอย อนัญญา สหัสสะรังษี (พลอย – Anunya พา Learn)

โดยเนื้อหาทั้ง 3 ประเด็นได้แก่:

  1. How to survive: วิธีทำให้เว็บไซต์ของเรารอดในยุคของ AI
  2. Future trends: trends ของเว็บไซต์ในโลกอนาคต
  3. What we need for a successful business: สิ่งที่เราต้องการเพื่อทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ

ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลย


  1. 🌐 How to Survive
    1. 1️⃣ Quality Content
    2. 2️⃣ Information Gain
    3. 3️⃣ Structure
    4. 4️⃣ llms.txt
    5. 5️⃣ JSON-LD
    6. 6️⃣ Trust
  2. 🔮 Future Trends
    1. 1️⃣ Cozy Web
    2. 2️⃣ Headless CMS
    3. 3️⃣ Zero UI
    4. 4️⃣ Query Fanout
  3. 🚀 What We Need for a Successful Business
    1. 💫 What We Need Is Systems
    2. 🤖 Examples
  4. 📄 References

🌐 How to Survive

.

AI content มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอินเทอร์เน็ต แต่การสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีการเว็บไซต์จะช่วยสร้างตัวตนบนอินเทอร์เน็ตที่จะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น

ถ้าเว็บไซต์เราจะอยู่รอด เราจะต้องทำเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ทั้ง 2 ส่วน คือ:

  1. Human: คนอ่าน content
  2. Machine: bot และ AI ที่เข้าถึงเว็บไซต์ของเรา

ซึ่งเราทำได้ 6 วิธี ดังนี้:

  1. Quality content
  2. Information gain
  3. Structure
  4. llms.txt
  5. JSON-LD
  6. Trust

.

1️⃣ Quality Content

เราจะต้องสร้าง content ที่มีคุณภาพ ซึ่งมีลักษณะ 4 อย่าง ได้แก่:

  1. Experience: เขียน/สร้างจากประสบการณ์ตรง
  2. Expert: เขียน/สร้างจากความเชี่ยวชาญ
  3. Authority: แสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อนั้น ๆ
  4. Trustworthiness: มีความน่าเชื่อถือ (ไม่ใช่ click bait)

.

2️⃣ Information Gain

Content ของเราจะต้องให้ข้อมูลใหม่/เพิ่มเติมจากสิ่งที่มีอยู่

ยกตัวอย่างเช่น:

  • สิ่งที่ไม่ควรเขียน: What is data science?
  • สิ่งที่ควรเขียน: How I apply data science in my job as a data analyst at Samsung

เราไม่ควรเขียน “What is data science?” เพราะเป็น content ที่มีอยู่มากมายบนอินเทอร์เน็ตแล้ว และไม่ช่วยเพิ่มข้อมูลให้กับคนอ่าน

ในทางกลับกัน “How I apply data science in my job as a data analyst at Samsung” เป็น topic ที่อาจจะยังไม่เคยมีใครเขียนมาก่อน และทำให้คนอื่นได้ข้อมูลที่แปลกใหม่ไปจากเดิม ดังนั้น เราควรจะเขียนหัวข้อนี้มากกว่า “What is data science?”

.

3️⃣ Structure

เราควรออกแบบโครงสร้าง content (เช่น บทความ) ให้ดี:

  1. Atomic content: แบ่ง content เป็นส่วน ๆ เช่น แบ่งเป็น 3 ส่วน แต่ละส่วนตอบคำถาม 1 ข้อ
  2. เขียน content เช่น “10 ที่เที่ยวแนะนำในกรุงเทพฯ”, “5 คำแนะนำสำหรับคนหางานใหม่”, หรือ “7 นิสัยที่คนรุ่นใหม่ควรมี”
  3. เขียน content แบบเปรียบเทียบ เช่น “เปรียบเทียบกล้อง Samsung Galaxy S25 และ iPhone 17”

.

4️⃣ llms.txt

llms.txt เป็นไฟล์บนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจะบอก AI ที่วิ่งเข้ามาหาเว็บไซต์ว่า เว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับอะไร มีโครงสร้างเว็บไซต์ยังไงบ้าง

เราควรปรับไฟล์นี้เพื่อช่วยให้ AI เข้าใจเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น และนำเนื้อหาของเว็บไซต์ไปสู่ target audience ของเรา

ตัวอย่าง llms.txt:

.

5️⃣ JSON-LD

JSON-LD (LD คือ linked data) เป็นไฟล์ที่ช่วยบอก AI ว่า เรามี asset อะไรบ้าง เช่น บอกว่า:

  • YouTube ของเราชื่ออะไร
  • Instagram ชื่ออะไร
  • Facebook page ชื่ออะไร

JSON-LD ช่วยให้ AI เข้าใจ online profile ของเรามากขึ้น

ตัวอย่าง JSON-LD:

.

6️⃣ Trust

สุดท้าย สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ trust เพราะ human เป็นคนที่จะเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา และคนอื่นจะไม่เข้ามาดู content บนเว็บไซต์ของเราถ้าเราไม่สามารถสร้างความไว้ใจให้กับเขาได้


.

1️⃣ Cozy Web

เว็บไซต์จะเปลี่ยนจาก public space ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ มาเป็น community-based หรือเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมของคนที่มีความสนใจเหมือนกันมากขึ้น

ตัวอย่าง cozy web เช่น:

  • WhatsApp
  • Discord
  • Snapchat

.

2️⃣ Headless CMS

เว็บไซต์จะแยกส่วนระหว่าง:

  1. ส่วนจัดเก็บข้อมูล (database)
  2. ส่วนการแสดงผล (UI หรือ head ของเว็บไซต์)

การแยก 2 ส่วนนี้ออกจากกัน จะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เหมาะกับ user ได้ง่ายมากขึ้น นั่นคือ แทนที่ user ทุกคนจะเห็น content บนเว็บไซต์ที่หน้าตาเหมือนกัน user จะเห็น content เดียวกันบนเว็บไซต์ที่แตกต่างกันไปแต่ละคน

.

3️⃣ Zero UI

Zero UI เป็นแนวคิดการออกแบบ user interface (UI) ให้ seamless สำหรับ user โดยแทนที่จะมีกล่องและปุ่ม user อาจสั่งการผ่านเสียงหรือพิมพ์ natural language ลงไปเพื่อใช้งานเว็บไซต์ได้

ด้วยความสามารถในการเขียน code ของ AI เราสามารถออกแบบเว็บไซต์ที่แตกต่างและเหมาะสมกับ target audience และเข้าใกล้ zero UI ได้มากขึ้น

.

4️⃣ Query Fanout

การค้นหาจะเปลี่ยนจาก search engine อย่าง Google มาเป็น AI search ซึ่งใช้การค้นหาแบบ query fanout หรือการแยกหัวข้อจากคำค้นหาของ user มากขึ้นเรื่อย ๆ

เราสามารถดูตัวอย่าง query fanout ได้ใน ChatGPT โดยทำตามวิดีโอด้านล่าง:

หรือใช้เครื่องมืออย่าง Query Fanout Analysis Tool

เมื่อเรารู้ว่า AI จะแตกหัวข้อออกมาเป็นอะไรบ้าง เราสามารถสร้าง content ที่ตอบโจทย์หัวข้อเหล่านี้ เพื่อทำให้ content เรามีโอกาสติดอันดับของ AI search มากขึ้น


🚀 What We Need for a Successful Business

.

💫 What We Need Is Systems

จากประสบการณ์ของคุณพลอย เราไม่จำเป็นต้องใช้คนจำนวนมาก หรือ business model ที่ใช่ เพื่อทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ:

สิ่งที่เราต้องการ คือ system ที่ดี

With great systems and the right tools, we can all scale. — Anunya Pa Learn

.

🤖 Examples

ในปัจจุบัน เรามีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่ช่วยให้เราสร้างระบบการทำงานที่ดีได้

ยกตัวอย่างเช่น:

ตัวอย่างที่ 1. Matt Gray ที่ออกแบบ content โดย:

  1. แบ่ง 1 long content เป็น 3 โพสต์ย่อย เพื่อสามารถโพสต์บน platform ต่าง ๆ ได้
  2. มี template สำหรับสร้าง content และโพสต์บนที่ต่าง ๆ เพื่อให้ทุกโพสต์มี mood and tone เดียวกัน
  3. วางระบบ automated DM เพื่อตอบรับและเก็บข้อมูล lead ผ่านทาง social media โดยอัตโนมัติ

ตัวอย่างที่ 2. Payper ที่เป็น AI ที่คุณพลอยพัฒนาขึ้นมา เพื่อแก้ pain point การจัดเก็บใบเสร็จสำหรับทำบัญชี ซึ่งทำงานใน 3 ขั้นตอน:

  1. เก็บข้อมูลใบเสร็จที่อัปโหลดลงใน LINE ไว้ใน Google Sheet
  2. สร้าง Google Drive folder เพื่อเก็บรูปใบเสร็จ
  3. ค้นหาและเก็บข้อมูลใบเสร็จที่อยู่ในอีเมล
  4. ออกใบแทนใบเสร็จในกรณีที่ใบเสร็จไม่มีหัวบิล

สำหรับคนที่สนใจทดลองใช้งาน Payper สามารถติดต่อได้ตามรูปด้านล่าง:


📄 References

EEAT:

Cozy web:

Headless CMS:

Zero UI:

Query fanout:

Comments

Leave a comment